รีวิวหมวก New Era Cap
New Era ตั้งต้นเป็นบริษัทเล็กๆ ในครอบครัวของ Koch Ehrhardt ในปี 1920
โดยเริ่มจากการผลิตที่ตกแต่งทรงผมแบบที่เรียกว่า Gatsby-style fashion ต่อมาแฟชั่นนี้ก็หมดความนิยมลง
ขณะที่ Harold Ehrhardt ลูกชายของผู้ก่อตั้งบริษัทสังเกตเห็นว่า เบสบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม
เขาจึงเริ่มผลิตหมวกเจาะกลุ่มตลาดผู้ชื่นชอบเบสบอลเป็นใบแรกในปี 1934
ความที่เป็นคนต่อสู้ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งหาเนื้อผ้าดีๆ สีสวยๆ ยาก
บริษัทก็ยังฮึดสู้ ลงทุนทำแม้กระทั่งใช้เครื่องซักผ้าของครอบครัวเป็นที่ย้อมผ้า
ด้วยดีไซน์บวกนวัตกรรม ทำให้บริษัทก้าวผ่านวิกฤตมาได้ เขาเป็นเจ้าแรกที่ทำหมวกแบบมียางยืดรัดด้านหลัง
ด้วยเอกลักษณ์ วิสัยทัศน์และการมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทำให้หมวก New Era มีความคลาสสิก
และเป็นที่ชื่นชอบอยู่เสมอ และแม้ Koch จะเสียชีวิตลง สิ่งเหล่านี้ก็ยังส่งต่อถึงรุ่นลูก
Harold เป็นผู้ออกแบบหมวกรุ่น 59FIFTY ที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น ซึ่งโด่งดังและได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 1954
จนถึงปัจจุบัน จัดเป็นส่วนหนึ่งของ Diamond collection กันเลยทีเดียว กิจการนี้ยังคงถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ภายในตระกูล Koch มาเรื่อยๆ และเริ่มรุกคืบ
ไม่ได้หยุดเพียงแค่เบสบอลลีคต่างๆ แต่ยาวไปถึง อเมริกันฟุตบอล เทนนิสและกอล์ฟ
มาโด่งมากๆ ก็ตอน Spike Lee (ผู้กำกับ นักเขียนและยังเป็นนักแสดงผู้โด่งดัง) สั่งให้ผลิตหมวกแก๊บสีแดง
รุ่นสั่งทำพิเศษสำหรับทีม New York Yankees นั่นเอง
สิ่งที่ทำให้หมวกของบริษัทนี้ยังเป็นที่นิยมต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันไม่ใช่เพราะเลือกจับทางกีฬาเพียงอย่างเดียว
แต่เพราะเขาพัฒนานวัตกรรม ใส่ลูกเล่นใหม่ๆ ในหมวกอยู่เรื่อยๆ ด้วย
ปัจจุบัน New Era เป็นหนึ่งในสองผู้ผลิตหมวกอย่างเป็นทางการเพื่อสนับสนุนทีมกีฬาดังหลายทีม
มาดูหมวกสไตล์ต่างๆ ที่เค้ามี จะได้เลือกกันให้ถูกใจ
สไตล์แรก เรียกว่า Fit คือฟิตจริงๆ นี่ล่ะรุ่นดั้งเดิมเค้าล่ะ สังเกตด้านหลังหมวกปรับยืดหดไม่ได้
ดังนั้น เวลาซื้อต้องวัดให้ขนาดพอดีกับศรีษะเรา อีกอย่างหนึ่งคือ ปีกด้านหน้าจะแบนราบ ไม่โค้งงอ
(เรามาดัดงอเองได้) และสติ๊กเกอร์ที่จะมาคู่กันก็คือ 59FIFTY แบบนี้
(ถ้าใส่เลียนแบบพวกแยงกี้ เค้าจะไม่เอาสติ๊กเกอร์ออก ติดไว้เก๋ๆ อย่างนั้นแหละ)
สไตล์ที่สอง เรียกว่า Stretch fit หรือ Curve ก็ได้ เพราะปีกด้านหน้ามีความโค้งเล็กน้อย
ยังต้องเลือกให้ขนาดพอดีศรีษะเหมือนเดิม เพราะปรับขนาดไม่ได้ สติ๊กเกอร์ที่จะมาคู่กันคือ 39THIRTY
รุ่นต่อไป เค้าเรียก SNAPBACK คือเป็นรุ่นที่ปรับความกระชับได้เล็กน้อยเพราะมีสายเลื่อนป๊อกแป๊ก
(ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี ) แต่ด้านหน้าจะย้อนกลับไปรุ่นเอกลักษณ์คือปีกตรง ไม่โค้ง (อยากดัดก็ไปดัดเอง)
รุ่นนี้จะมาพร้อมกับสติ๊กเกอร์ 9FIFTY
ต่อมา เรียกว่ารุ่น STRAPBACK ปีกโค้งและปรับเลื่อนสายได้แบบใช้ตัวล็อค มาพร้อมกับสติ๊กเกอร์ 9FORTY
เหมือนจะมีดีที่ปรับขนาดรอบศรีษะได้ ปีกด้านหน้ามาแบบแบนๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับโค้งเองได้ตามชอบใจ
สติ๊กเกอร์มีอีกสองแบบ คือ เขียนว่า 19FIFTY หรือ ADJUSTABLE
นอกจากนี้ก็ยังมีหมวกไหมพรม เชื่อเถอะว่า ถ้าเข้าไปดูเว็บของจริงแล้ว จะตัดใจเลือกได้ยากจริงๆ
และหากใครอยากจะมีหมวกที่เป็นเอกลักษณ์ เช่นมีชื่อย่อของตัวเอง เค้าก็รับทำให้ค่ะ
ปิดท้ายกันที่ภาพหมวกรุ่นไฮไลท์ ใบไหนเป็นใบไหน ไปส่องกันดูนะคะ
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ https://www.neweracap.co.uk/
++ การสั่งซื้อจากต่างประเทศ ขอแนะนำให้รวบรวมเพื่อนสั่งให้ได้ซัก 5 ใบ
จะรวมน้ำหนักได้ประมาณ 1 กก. จะทำให้ต้นทุนต่อใบถูกลงมากค่ะ ++
Comments
Post a Comment