Xiaomi Band 2 คู่มือคนรักสุขภาพ ดีจริงหรือ?

หลังจากใช้งานมาได้สักพัก พร้อมทั้งเจอปัญหาที่หลายๆ คนได้เจอ วันนี้เลยขอมารีวิว Mi band ให้รู้จักกันนะคะ

Mi band 2 นางเป็นอุปกรณ์ Tracking ใส่ที่ข้อมือเพื่อเชื่อมต่อกับมือถือหรือแท็ปเล็ตผ่านสัญญาณ bluetooth สามารถตั้งค่าให้สั่นเตือนเมื่อมีข้อความเข้า ตั้งปลุก ฯลฯ และติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น จำนวนก้าวเดิน และที่สำคัญ Mi Band 2 สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ซึ่งมีไม่กี่ยี่ห้อที่ทำได้ในราคาระดับนี้ค่ะ (เราซื้อตอน Mi band 2 ออกใหม่ๆ เลยกว่า £32 ตอนนี้เหลือ £18)  แต่ที่เราชอบมากๆ เป็นการส่วนตัว คือการบันทึกภาวะการนอนหลับ Mi Band สามารถบอกได้ว่า เมื่อคืนนี้เรานอนหลับตื้นกี่ชั่วโมง หลับลึกกี่ชั่วโมง ทำให้เราปรับพฤติกรรมการนอนได้ดียิ่งขึ้น

ความสามารถ

1. หน้าปัดบอกเวลา จึงสามารถใช้แทนนาฬิกาข้อมือได้เลย (Mi band 1 ไม่มีหน้าปัดบอกเวลา)
2. นับจำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน พร้อมทั้งเปลี่ยนเป็นหน่วยพลังงาน (แคลอรี่) ทำให้รู้ว่าเรา Work out หนักแค่ไหน
3. ติดตามจังหวะการนอน หลับตื้น หลับลึก รวมทั้งการตื่นระหว่างนอน
4. วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (หากอยากติดตามแบบต่อเนื่อง ต้องใช้ Application แบบเสียเงินช่วย)
5. สามารถส่งข้อมูลไปบันทึกบน Google fit ได้เพื่อให้ง่ายต่อการประมวลผลข้อมูล
6. ตั้งปลุก
7. ตั้งสั่นเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้า หรือข้อความจาก Line หรือ Social app อื่นๆ (ถ้าใช้ Official Mi Fit จะตั้งได้ 5 app ถ้าใช้แอพของ Mi band แบบเสียเงินซื้อ เช่น Notify & Fitness for Mi Band จะตั้งเตือนได้ทุกอย่าง)

นี่คือภาพตัวอย่างการติดตามการนอนหลับใน 1 คืนและในหนึ่งสัปดาห์

       

ความทนทาน

1. ทนทานต่อการใช้งานในทุกสภาวะ สามารถใส่ได้ตลอดเวลา ไม่รู้สึกระคายเคือง ใส่ล้างห้องน้ำยังได้
2. ชาร์ตแบตเตอรี่ 1 ครั้ง อยู่ได้ประมาณ 30 วัน (ขึ้นกับจำนวนความถี่ในการสั่นและการ Tracking ข้อมูล ถ้าติดตามอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา เท่าที่ใช้มา จะใช้ได้ 15-20 วันแล้วค่อยชาร์จ 1 ครั้ง

ใส่ทำงานหนักได้ ทนต่อไอสารเคมี

ถ้าอยากดูหรู ก็ซื่้อสายมาเปลี่ยนเพิ่ม

วิธีการใช้งาน

1. เมื่อได้ Mi band 2 มาแล้ว อันดับแรก ให้ดาวน์โหลด Official Application มาใช้งานก่อนเลยค่ะ ชื่อว่า Mi fit ของ Xiaomi Technology ซึ่งแอพนี้ ฟรี แต่จะใช้งานเบื้องต้นได้ระดับหนึ่ง คือ ตั้งให้เตือนได้แค่ 5 แอพ และวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้เป็นครั้งๆ ไป คือกดวัดเมื่อไหร่ มันถึงจะวัดและบันทึกให้ (กดวัดได้ทั้งผ่านแอพที่มือถือ และที่หน้าจอ MiBand) 
2. ถ้าอยากให้มีความสามารถสูงขึ้น แนะนำให้ซื้อแอพชื่อ Notify & Fitness for Mi Band ของ OneZeroBit มาใช้งาน ทีนี้จะสามารถแทร็กอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดเวลา (หรือจะตั้งให้แทร็กทุกๆ กี่นาทีก็ได้ แต่ที่สำคัญ หากจะแทร็กอัตราการเต้นของหัวใจ ต้องใส่ Mi Band ให้กระชับกับข้อมือ จะใส่หลวมๆ ไม่ได้ค่ะ

 

ข้อควรระวัง ปัญหาที่พบบ่อย

มี application ที่ใช้กับ Mi band 2 ได้หลายตัว ที่คุณสามารถลองผิดลองถูกได้ แต่ข้อควรระวังก็คือ ก่อนจะลบ Application ใด ต้อง unpair ใน Bluetooth ให้เรียบร้อยก่อน ไม่งั้นงานเข้ามากๆ และคุณอาจพบปัญหาแบบนี้ 

"my Mi Band 2 would not record my sleep data. I unpaired the Mi Band and uninstalled the Mi Fit app on my android phone. I reinstalled the Mi Fit app on my phone but could not log in. I tried to recover my password, but I kept getting a message that my account did not exist. I tried my email address, mobile phone number, and Google Voice number but kept getting the same message. I created a new account and was finally able to log in to the app. I entered my personal information, but when I tried to pair my phone the app said “Band is paired by other person. Ask them to unpair it and try again” which is impossible to do since I had already unpaired it. 

Does anyone know how to factory reset a Mi Band 2?"

และเท่าที่อ่านมา ยังไม่เจอวิธี Factory reset นะคะ แม้จะมีคนแนะนำให้กดหน้าจอค้างไว้ 20 วินาทีก็ไม่ช่วย เพราะเมื่อ pair แล้ว pair เลย จนกว่าจะ unpair ก่อนที่จะลบ Application เปรียบเสมือนการเขียนข้อมูลเราลง Mi band แล้วลบไม่ได้

เราเองลองมาหลายวิธีแล้วก็แก้ไม่ได้ ถึงขั้นติดต่อบริษัท แต่นี่คือคำตอบที่เราได้รับ ถามเราว่าซื้อที่ไหน แล้วก็บอกว่าไม่รับผิดชอบใดๆ

บอกตรงๆ ว่าฟังก์ชั่นการใช้งานดี แต่บริการหลังการขายสุดแย่ ต่อคำถามว่า Xiaomi Band 2 คู่มือคนรักสุขภาพ ดีจริงหรือ? เราก็ขอบอกว่า ให้ลองชั่งใจกันเอาเอง

แต่สำหรับใครที่มีปัญหาแบบเดียวกับเรา ในที่สุด เราก็หาทางออกเจอ ลองดูค่ะ

วิธีแก้ไขเบื้องต้น 1 (A classic solution, which is not work for me)

1. At your mobile phone / go to setting / Apps / choose Mi Fit / Click Storage then CLEAR DATA and CLEAR CACHE
2. Back / FORCE STOP
3. Go to setting / Bluetooth / unpair Mi Band (choose pair devices, Mi Band 2, then click Forget )
4. Reboot your phone

วิธีแก้ไขเบื้องต้น 2 (Solution 2, a solution that I've tried and work)

1. Must process via a computer

2. Login to your Xiaomi account here:

https://account.xiaomi.com/pass/serviceLogin?callback=https%3A%2F%2Faccount.xiaomi.com%2Fsts%3Fsign%3DZvAtJIzsDsFe60LdaPa76nNNP58%253D%26followup%3Dhttps%253A%252F%252Faccount.xiaomi.com%252Fpass%252Fauth%252Fsecurity%252Fhome%26sid%3Dpassport&sid=passport

 3. Try to login with your email account.

4. In case if you cannot login by the registered email address, click Forget password

5. Login by using your mobile phone number (I believed all of you have registered by both email and mobile number at the beginning, so that it can vibrate whenever you've got a call or a message)

// I've tried this step via mobile phone but didn't work, that why I said we must process via a computer

// don't forget to select country code, I clicked at Look up country code which is better than key it by myself

6. Get the code via the phone and quickly put it in the website. Now you can enter the same account as before, despite your current email is missing.

7. "Don't get locked out of your account! Set the recovery email now."

// I've tried as they recommended but I can't do this step. It is noticed here that the email which we used for the registration is gone. That's why we can't login via the email at all.

//For the setting of recovery email, it might work for you. If not, just skip and go to the next step

6. Set security questions (Capitals are mind!)

7. Now all of your data that remain in your Mi Band should be transferred to your phone.

8. Power off your phone (Reboot doesn't work for me) and then power on again

9. Check the connection of your Mi band via Bluetooth again. Done!

Lastly, if the solution 2 does not work, please do the solution 1 first and do the solution 2 again. Good luck my friends.

Now I hope you have fun with Mi Band. It is so much useful despite some annoying problem like this.